Health

  • สาเหตุและวิธีป้องกัน โรคซิฟิลิส
    สาเหตุและวิธีป้องกัน โรคซิฟิลิส

    โรคซิฟิลิส เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่าซิฟิลิสโตเกียวิทยา (Clostridium difficile) ซึ่งสามารถเข้าทำลายเนื้อเยื่อในลำไส้ใหญ่ได้

    โรคซิฟิลิสสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกวัย แต่มักพบบ่อยกับผู้สูงอายุและผู้ที่ได้รับการให้ยาแอนติบิออติกหรืออะมิโนไกด์

    โรคซิฟิลิส

    สาเหตุของโรคซิฟิลิส

    โรคซิฟิลิสเกิดจากเชื้อราในดินชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Fusarium oxysporum f. sp. cubense (Foc) ซึ่งจะเข้าทำลายรากพืชและส่งผลให้พืชเหี่ยวและตายได้ โรคซิฟิลิสสามารถแพร่กระจายได้ด้วยการใช้เครื่องมือทางการเกษตรหรือการนำเข้าต้นกล้าที่เป็นพาหะนำโรค

    วิธีป้องกันโรคซิฟิลิส

    1. การเลือกใช้พันธุ์พืชที่ต้านทานโรคซิฟิลิส

    การเลือกใช้พันธุ์พืชที่มีความต้านทานต่อโรคซิฟิลิสจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีปริมาณเชื้อราสูง

    2. การใช้วิธีการป้องกันกำจัดโรคซิฟิลิสด้วยวิธีชีวภาพ

    การใช้วิธีการป้องกันกำจัดโรคซิฟิลิสด้วยวิธีชีวภาพ เช่น การใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา หรือการใช้แบคทีเรียซึ่งเป็นเชื้อราปฏิปักษ์ จะช่วยลดปริมาณเชื้อราในดินและช่วยป้องกันการเกิดโรค

    3. การใช้วิธีการป้องกันกำจัดโรคซิฟิลิสด้วยวิธีเคมี

    การใช้วิธีการป้องกันกำจัดโรคซิฟิลิสด้วยวิธีเคมี เช่น การใช้สารเคมีที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อรา จะช่วยลดปริมาณเชื้อราในดินและช่วยป้องกันการเกิดโรค

    โรคซิฟิลิสเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราในดิน ซึ่งสามารถเข้าทำลายรากพืชได้ ทำให้พืชไม่สามารถดูดน้ำและอาหารได้อย่างเต็มที่ วิธีป้องกันโรคซิฟิลิสได้แก่การเลือกใช้พันธุ์พืชที่ต้านทานโรคซิฟิลิส การใช้วิธีการป้องกันกำจัดโรคซิฟิลิสด้วยวิธีชีวภาพ และการใช้วิธีการป้องกันกำจัดโรคซิฟิลิสด้วยวิธีเคมี การป้องกันโรคซิฟิลิสจึงเป็นสิ่งที่สำคัญในการเกษตรเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปลอดภัยต่อผู้บริโภค

    คำถามที่พบบ่อย FAQ

    โรคซิฟิลิสมีอาการอะไรบ้าง

    – โรคซิฟิลิสมีอาการหลายอย่าง เช่น ท้องเสียรุนแรง ปวดท้อง ไข้ คลื่นไส้อาเจียน และอาการทางเดินอาหารอื่นๆ โดยอาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันหลังจากติดเชื้อ แต่บางครั้งอาจเกิดขึ้นได้ในช่วง 10 วันหลังจากติดเชื้อ

    วิธีการวินิจฉัยโรคซิฟิลิสคืออะไร

    – การวินิจฉัยโรคซิฟิลิสจะใช้วิธีการตรวจอุจจาระ เพื่อตรวจหาเชื้อแบคทีเรียซิฟิลิสโตเกียวิทยา โดยใช้เทคนิคการประมวลผลทางพันธุกรรม (PCR) หรือการเพาะเชื้อในห้องปฏิบัติการ นอกจากนี้ แพทย์ยังอาจสั่งตรวจเลือด เพื่อตรวจหาเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรีย

    ที่มา

    ihealzy.com

    cth.co.th

    ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ samesake.com

     

Economy

  • แฉผู้ส่งออก! ปลอมหนังสือรับรองถิ่นกำเนิด
    แฉผู้ส่งออก! ปลอมหนังสือรับรองถิ่นกำเนิด

    แฉผู้ส่งออก! ปลอมหนังสือรับรองถิ่นกำเนิด อ้างต้นทางผลิตจากไทย-ทุเรียนโดนมากสุด

    นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า หน่วยงานศุลกากรต่างประเทศขอความร่วมมือให้กรมตรวจสอบย้อนหลังหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า ที่แสดงต่อศุลกากรต่างประเทศในการนำเข้าสินค้าจากไทย

    โดยให้ตรวจสอบตั้งแต่ปี 65 จนถึงปัจจุบัน รวม 1,055 ฉบับ แบ่งเป็น

    1.หนังสือรับรองที่ใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (Form FTA) สำหรับส่งออกไปอาเซียน จีน เกาหลีใต้ และอินเดีย รวม 788 ฉบับ และ

    2.หนังสือรับรองที่ไม่ใช้สิทธิพิเศษทางภาษี (Form CO ทั่วไป) 267 ฉบับ ซึ่งพบว่าเป็นหนังสือปลอมที่กรมไม่ได้เป็นผู้ออกให้ 604 ฉบับ แบ่งเป็น 1.Form FTA จำนวน 382 ฉบับ และ 2.Form CO ทั่วไป 222 ฉบับ

    แฉผู้ส่งออก! ปลอมหนังสือรับรองถิ่นกำเนิด อ้างต้นทางผลิตจากไทย-ทุเรียนโดนมากสุด

    สำหรับการปลอมหนังสือรับรองดังกล่าว จะเป็นการสวมเลขที่หนังสือรับรองของผู้ส่งออกรายอื่น หรือมีการกำหนดเลขที่หนังสือรับรองขึ้นเอง โดยมีการใช้หนังสือรับรองปลอมกับสินค้า 2 รายการ คือ ทุเรียน ที่ส่งออกไปจีน และล้ออัลลอย

    ที่ส่งออกไปรัสเซีย โดยกรมได้แจ้งให้ศุลกากรของ 2 ประเทศทราบแล้ว และขอข้อมูลหรือเอกสารเพิ่มเพื่อดำเนินการกับผู้ปลอมแปลงหนังสือรับรองต่อไป รวมทั้งเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่ปลอมแปลงเอกสาร รวมถึงประสานงานกับศุลกากรประเทศปลายทาง เพื่อร่วมกันป้องกันปัญหาการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าไทยต่อไป.

    ขอบคุณรูปภาพจาก : thairath.co.th

    ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th

    สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : samesake.com